Japan Trip Part 1

JAPAN TRIP WITH FAMILY :) 

4-11 April 2014

            สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลยชื่อ 'เอม' นะคะ ช่วงนี้ก็เป็นช่วงปิดเทอมจบม.6 ที่แสนยาวนาน เลยอยากจะเขียนบล้อกขึ้นมา จริงๆเมื่อก่อนเป็นคนชอบเขียนอะไรทางเน็ตมาก แต่ก่อนรักการแต่งนิยาย เขียนบล้อกนู่นนี่นั่นไปหมด แต่นั่นก็ความฝันสมัยก่อนแหละค่ะว่าอยากเป็นนักเขียน 555555555 ช่วงนี้ไหนๆก็ว่างแล้วอยากกลับมาเขียนอีกครั้งพร้อมกับบล้อกใหม่ค่ะ ( อันเก่าเคยเขียนเมื่อสี่ปีที่แล้วหาลิ้งค์ไม่เจอแล้วค่ะ ._. )

            ทริปนี้ก็เป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกเลยค่ะ ส่วนตัวเป็นคนชอบกินอาหารญี่ปุ่น ชอบขนมญี่ปุ่นและชอบสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเขามากๆเลยค่ะ อันนี้ไปมาเมื่อปีที่แล้ว เลยอยากเอามาเล่าความประทับใจให้ฟัง ถือเป็นทริปที่ฉลองวันเกิดไปในตัวเลยค่ะ ๕๕๕๕ ซึ่งไปช่วงที่เราไปเนี่ย เพื่อนๆแต่ละคนกำลังขยันอ่านหนังสือเรียนพิเศษกันส่วนใหญ่  แต่ด้วยความขี้เกียจและอยากเที่ยวมานาน ดังนั้น หนังสือไว้ก่อนค่ะ 5555555555555 เวิ่นมาเยอะแล้ว งั้นเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ

คำแนะนำสำหรับคนที่จะไปเที่ยวช่วงเดือนเมษานะคะ
อย่างแรก อากาศช่วงนี้หนาว แต่ไม่ได้ถึงกับหนาวจัด แต่ยังไงก็ต่ำกว่า 10 องศาค่ะ

[ DAY 1 ] 4.4.2014

          วันนี้วันเกิดเค้าเองแหละ ๕๕๕๕ (ผิดประเด็น) ตื่นเต้นนนนน! ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง นั่งรอไฟล์ท
ประมาณเกือบเที่ยงคืน  ครั้งนี้ก็เป็นการไปกับทัวร์ของ PKG Journey Line รีวิวให้ฟังเลยโน้ะ ทัวร์นี้ถือว่าโอเคเลยค่ะ ดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี มีของใช้จำเป็นบางอย่างที่มากับบริษัทให้มาด้วยค่ะและที่สำคัญไกด์มีความเชี่ยวชาญมาก ไกด์พูดเก่ง อธิบายคล่องแคล่วดีค่ะ  วันนี้ก็ไปถึงสนามบินเวลาประมาณสามทุ่มกว่าๆตามเวลาที่ทัวร์นัดเป้ะ ! ก็เช็คอินเข้าไปนั่งรอด้านในตามระเบียบ



จะได้นั่งเครื่องบินอีกรอบแล้ววว ;_____; ( ปกติเป็นคนที่ไปไหนรถอย่างเดียวเลยค่ะ ยกเว้นต่างประเทศนะ ) ในเครื่องก็นั่งๆนอนๆ แต่ส่วนใหญ่จะดูหนังมากกว่าค่ะ มีแต่หนังเรื่องโปรดที่ไม่ได้ดูทั้งนั้น ถือว่าคุ้มค่ะ 55555555 ขอข้ามไปอีกวันเลยแล้วกันนะคะ เอาเป็นว่าไปถึงวันที่ 5 ช่วงเช้าของประเทศญี่ปุ่นค่ะ 

[ Day 2 ] 5.4.2014

 • Chubu Centrair International Airport , Nagoya •
โฮรววววววว ในที่สุด ความฝันการมาประเทศญี่ปุ่นก็เป็นจริง  ตอนนี้ก็ถึงญี่ปุ่นแล้วค่ะ T____T !! ( เวลาประเทศญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมงค่ะ )  มาถึงสนามบินไกด์ก็พาเราไปเอากระเป๋า เปลี่ยนชุด สวมเสื้อกันหนาวหนาๆ เพราะตอนนี้อุณหภูมิประมาณ 4-7 องศาค่ะ วันนี้เราก็มาพักที่เมืองนาโกย่าค่ะ
พอถึงเวลาปุ๊บก็มีรถทัวร์มารับที่สนามบิน ขอบอกเลยว่าก้าวแรกที่ก้าวออกจากสนามบินหนาวมาก อากาศเท่านั้นยังไม่พอ มีลมอีก แข็งค่ะแข็ง 5555555

มาถึงสถานที่แรกที่ไปนะคะ คือ 'ศาลเจ้าอัตสึตะ' เป็นศาลเจ้าที่สำคัญเป็นอับดับสองของญี่ปุ่น
อย่างแรกที่มาถึงก็จะมีที่ตักน้ำกับบ่อน้ำใหญ่ๆอยู่ด้านหน้าไว้สำหรับล้างมือ ซึ่งอันนี้ก็เป็นความเชื่อของคนญี่ปุ่นกันค่ะ ( สังเกตได้ว่าตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆจะมีนะคะ อันนี้ได้ข้อมูลมาจากไกด์อีกทีค่ะ )


หลังจากนั้นก็เดินถ่ายรูป ขอพร และที่สำคัญมีขายเครื่องรางต่างๆด้วยค่ะ นับว่าเป็นเรื่องโชคดีมากๆ ซักพักก็มีขบวนแต่งงานของคนญี่ปุ่นมาที่นี่ด้วยค่ะ ได้เห็นถึงวัฒนธรรมของประเทศเขา




มาถึงมื้อกลางวันนะคะ จัดว่าเด็ด วันนี้จะพามาทานปูกันค่ะ >.,< เป็นอาหารที่เราชอบอยู่แล้ว ฮ่าาา

 

สถานที่ต่อไปก็คือ 'วัดนิทไทจิ' เป็นวัดที่เป็นเครื่องหมายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยค่ะ ขอบอกว่าสวยมากๆ เลยค่ะ แถมยังแสดงถึงความเป็นไทยด้วยค่ะ ที่นี่ยังเหมาะกับคนที่เล่นกล้องด้วยค่ะ เดินถ่ายรูปสวยๆเพลินๆ พร้อมกับบรรยากาศแบบไทยผสมญี่ปุ่น ดอกซากุระกำลังบาน><





หลังจากนั้นไกด์ก็พาไปที่ แจ๊สดรีม เอ้าท์เล็ต ที่นี่เหมาะสำหรับขาช้อปเบรนเนมจริงจังค่ะ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ Burberry, Coach , Calvin klein อยู่ที่นี่กันประมาณสามชั่วโมงค่ะ ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยช้อปแบรนเนมบวกกับอากศที่หนาว เพราะที่เดินเป็นแบบ outdoor เลยไปนั่งรอที่สตาร์บั้คแทนค่ะ 5555555555555 เมนูที่นี่จะมีหลายๆอย่างที่ไม่เหมือนไทยนะ ส่วนเรื่องราคาก็คงพอๆกัน เชื่อว่าตอนนี้คนกำลังหลบหนาว มาหาอะไรอุ่นๆ ดื่มกันดีกว่า ฮ่าาา แต่ก็นั่งได้ไม่นานมาก ส่วนตัวก็เดินตระเวณหาของกิน ตู้กดน้ำแทนค่ะ อยากจะได้กลับไปตั้งที่บ้านซักตู้จริงๆ =..=


วันนี้ก็จบลงแบบเบาๆ เดินทางไม่เหนื่อยมาก ใกล้ๆโรงแรมมีของกินอร่อย แต่ไม่มีไวไฟที่ห้อง (เอ้ะ เดี๋ยว) ก็เลยได้แต่ลงมาเล่นที่ล้อบบี้ ใครไปญี่ปุ่นก็ขอแนะนำ แฟนต้าลูกแพรนะคะ อร่อยมากค่ะ >___< ( รีวิวมาจากเพื่อนอีกทีนึง )


 [ Day 3 ] 6.4.2014

สวัสดีวันที่สามค่า ไม่อยากให้มาถึงเลย เพราะยิ่งถึงไวยิ่งต้องกลับไว หลายๆคนคิดแบบนี้ใช่ไหมคะ 5555555 ทริปวันนี้ขอยกให้เป็นทริปที่สนุกอีกวันค่ะ วันนี้เราจะพาไปทำอาหารจำลองที่เมืองกุจโจกัน อาหารจำลองที่ว่านี่ก็คืออาหารที่อยู่ตามหน้าร้านต่างๆนั่นเอง ทำมาจากไวนิลและขี้ผึ้งเป็นส่วนใหญ่ ส่วนวิธีทำที่เราจะได้ทำกันนั้นก็ไม่อยากเลยค่ะ วันนี้ขอเสนอเมนู 'กุ้งเทมปุระ' 

 

สภาพก็ออกมาเป็นแบบนี้ล่ะ .___.


  ราวกับว่าวันนี้อากาศเป็นใจมาก หลังจากออกจากนาโกย่าปุ๊บ อุณภูมิลดลงเหลือ -1 องศา แถมหิมะตกด้วยค่ะ เอ้าเพลงมาาาา อยากจะทำตัวเป็นเอลซ่าโดยทีเดียว ฟินนนนนนน เห็นหิมะตกเป็นครั้งที่สอง T///T ทั้งๆที่ไกด์บอกว่าพยากรณ์อากาศบอกวันนี้อากาศจะอุ่นขึ้น (หืมมมม พูดผิดพูดใหม่นะคะ เสื้อก็เตรียมมาแค่นี้แหละค่ะ ) กินอาหารเที่ยงท่ามกลางหิมะตกนี่มันโรแมนติกจริมๆ อย่างกับในซีรี่ย์แน่ะ หิมะตกโปรยปรายท่ามกลางเราสองคน (คัทททท ! แกตื่นจากฝันทีเถอะ )


ไฮไลท์ของวันนี้ก็คือ 'หมู่บ้านชิราคาว่า' ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนที่มาญี่ปุ่นจะพลาดไม่ได้ ด้วยความที่ว่าที่นี่เป็นแหล่งมรดกโลก และเป็นแหล่งอนุรักษ์บ้านสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ดั้งเดิม แถมหิมะก็ยังคงตกถึงที่นี่เลยค่ะ ซึ่งหมู่บ้านนี้ตอนที่หิมะตกจะได้ภาพที่สวยมากๆ สำหรับเรา แต่สำหรับคนอื่นอาจจะกำลังวิ่งหลบหิมะกัน ไอเราด้วยความที่บ้านไม่มีหิมะเนาะ วิ่งออกไปเล่น จริงๆมันก็เหมือนฝนแหละ เปียกแฉะเสื้อไปหมด 555555555






 

 



ปิดท้ายวันนี้ด้วยการแช่ออนเซนที่โรงแรมค่ะ ตามที่รู้ดีกันว่ากฎระเบียบการแช่ออนเซนเป็นยังไง แนะนำให้ไปแช่ดึกๆนะคะ คนน้อยดีค่ะ อย่างน้อยครั้งนึงเราก็มาที่ญี่ปุ่น แนะนำให้ไปแช่นะคะ ดีต่อสุขภาพจริงๆค่ะ ซัก 5-10 นาทีก็พอค่ะ :)

  [ Day 4 ] 7.4.2014

วันนี้ก็เป็นทริปแบบชิวๆนะคะ อากาศกำลังสบายเลยค่ะ ประมาณ 3 องศาแต่ลมไม่แรงมาก ตอนเช้าก็จะพามาเดินที่ 'ตลาดเช้าเมืองทาคายาม่า' ก็เหมือนๆเวลาเราเดินตลาดเช้าบ้านเราเลยค่ะ แต่ว่าอากาศที่นี่ชิลกว่ามาก เดินสบายๆไม่ร้อน แต่แดดแอบแรงแบบบ้านเมืองหนาว ระหว่างทางก็จะมีของกินตลอดแนว แต่ส่วนใหญ่ก็แนวตลาดสด มีผัก ผลไม้ ปลาอะไรพวกนี้ แนะนำว่าให้ลองกินระหว่างทางไปเลยค่ะ เราไปกินแอปเปิ้ลฟูจิมา ป้าเขาปลอกให้ทานเลยค่ะ แต่ไม่แนะนำให้ซื้อของสดกลับนะคะ กว่าจะถึงไทยนี่เน่าก่อนแน่ๆ 555555555







                                               อันนี้คล้ายๆขนมไข่ อร่อยดีค่ะ > < 



 แอปเปิ้ลที่พูดถึงในตอนแรก

ต่อมาไกด์ก็พาไป 'ทาคายาม่า จินยะ' เป็นอาคารรัฐบาลเก่า แต่ที่นี่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่จะเก็บบรรยากาศระหว่างเดินมากกว่า 




ปิดท้ายวันนี้ด้วย 'ปราสาทมัตสึโมโต้' เป็นอีกประสาทหนึ่งที่มีชื่อเสียงและสวยงามอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยทีเดียว





 ............................. เจอกัน PART 2 นะคะ .............................

ปล. ที่ไม่เขียนพาร์ทเดียวจบเพราะมันยาวมาก ขอบคุณที่อ่านจนจบพาร์ทแรกนะคะ เหมือนทรมานมาก 5555555555555

Comments

Popular posts from this blog

รีวิว series เกาหลี 2014-2015

{ Tips } How to get good score in TOEIC Exam ! + แจกข้อสอบชุดปราบเซียน :)

รีวิวซีรี่ย์เกาหลีปี 2015