Switzerland Unseen Part1

- Switzerland Unseen Part 1 -






               สวัสดีค่า หลังจากที่ไม่ได้เขียนบล็อคมานานเนื่องจากตอนนี้เราก็เข้ามหา'ลัยแล้ว เวลาว่างคงจะน้อยลง แต่ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมซึ่งก็ได้ไปเที่ยวที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์มาค่ะ XD  เชื่อว่าคงเป็นเมืองในฝันของหลายๆคนก็ว่าได้ เพราะเป็นเมืองที่สวยมาก สวยจริงๆ ไม่ว่าจะถ่ายวิวมุมไหนก็สวยหมดค่ะ แล้วก็ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางมาที่นี่ ค่ากินอยู่ถือว่าแพงมากๆค่ะ ช่วงเดินทางวันที่ 8-15 มิถุนายน 2559 โดยทริปนี้เดินทางด้วยกันทั้งหมด 6 คนค่ะ คือครอบครัวและและครอบครัวเพื่อนพ่อ

การขอวีซ่า   ใช้วีซ่าเชงเก้น (ที่ใช้ทั่วไปในแถบยุโรป) รายละเอียดตามเว็บนี้เลยค่ะ  

 https://www.tlscontact.com/th2ch/login.php?l=th


สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป

1.สายการบิน  มีทั้งบินตรงและแบบต่อเครื่อง
ถ้าบินสายการบินของ swiss จะบินตรงเลยค่ะ ( ใช้เวลาน้อยกว่า Bkk-Zurich ประมาณ 10 ชั่วโมงค่ะ)
แต่เราเลือกของ British airways เนื่องจากไปแวะรับลูกชายของเพื่อนพ่อก่อนค่ะ  ( BKK-London-Zurich)  ราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับประมาณคนละสองหมื่นค่ะ ซื้อตอนช่วงโปรโมชั่น
เครื่องต่อส่วนใหญ่ถ้าบินไปแถบทวีปยุโรปจะต่อที่ดูไบค่ะ




2.ภาษา  คนส่วนใหญ่ในประเทศพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ เพราะเป็นภาษาพูดของเขาแต่เวลาเขียนจะแบ่งตามภูมิประเทศของเขาว่าติดกับประเทศอะไรมีทั้งเยอรมัน อิตาลี่ ฝรั่งเศส ค่ะ ( ตอนที่เราไปใช้แต่ภาษาอังกฤษอย่างเดียวค่ะ )

3.วันหยุด  วันอาทิตย์จะเป็นวันที่ร้านค้าเปิดน้อยมากค่ะ บางสถานที่ท่องเที่ยวก็ปิดด้วยค่ะ

4.ที่พัก-โรงแรม  โรงแรมแถบนี้จะเป็นโรงแรมเล็กๆ พื้นที่ไม่กว้างมาก บางที่ไม่มีลิฟต์ และราคาสูงมากค่ะ บางที่อาจเป็นอพาร์ทเม้นต์ อันนี้มีทุกอย่างจริงๆค่ะ ห้องครัว เครื่องซักผ้า เครื่องเป่าแห้ง สารพัดประโยชน์เลยค่ะ 

นี่คือ List โรงแรมที่เราไปพักมานะคะ
Day 1  Heathrow Hotel Bath Road ( อันนี้พี่จองให้ค่ะ เนื่องจากไฟล์ทเลื่อนเลยได้คูปองส่วนลดพิเศษ )
Day2-Day4  CityChalet historic , Interlaken  ( เป็นอพาร์ทเม้นต์เหมาะกับการไปอยู่ประมาณ 10 กว่าคนค่ะ จริงๆสองคืนแรกหาโรงแรมไม่ได้เลยต้องพักที่นี่ค่ะ ซึ่งราคาค่อนข้างสูง )






วิวที่มองเห็นจากอพาร์ทเมนต์ตรงห้องน้ำ

Day4-Day5  Hotel A donis , Zermett ( 200 CHF ) 
* แนะนำว่าวิวโรงแรมดีมากๆเลยค่ะ 




Day 5- Day6 Hotel post Hardermannli ( อันนี้จำราคาไม่ได้ค่ะ )


Day6-Day7  Xtra hotel, Zurich ( ข้างล่างเป็นผับค่ะ 5555555 )

5.เวลา  สวิสเซอร์แลนด์จะช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง  
ในช่วงฤดูร้อนจะมีเวลากลางวันที่ยาวนาน พระอาทิตย์จะขึ้นตั้งแต่ประมาณ 5.30 และตกดินประมาณ 10.00 pm. ทำให้มีเวลาเดินท่องเที่ยวได้มากขึ้น แต่ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดก่อนสองทุ่ม

6.ร้านสะดวกซื้อ ที่นี่จะไม่มีเซเว่นเหมือนประเทศอื่นๆ จะมีเป็นซุปเปอร์มาเก้ต ร้าน COOP ( หาได้ตามเมืองทั่วไปปเปิดตั้งแต่หกโมงเช้ายันสี่ทุ่มครึ่ง ), ร้าน DENNER เป็นซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่มีทุกอย่าง ,ร้าน  Kiosk เป็นร้านเล็กๆมีทั่วบ้านเมือง คล้ายๆเซเว่นแต่ก็มีเวลาเปิดปิดค่ะ

7.ค่าเงิน 1 CHF ประมาณ 36 บาท ( แต่เราแลกมาใน rate 35.90 bath) ขึ้นกับเวลาและวันค่ะ ค่าเงินจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ 

8.บริการโทรศัพท์  ซื้อเนตซิมของ Lycamobile ราคา 25CHF ได้เนตมา 6 GB ใช้ได้ประมาณเดือนนึงค่ะ (หาซื้อได้ตามสนามบินและร้านทั่วไป) แนะนำให้ใช้เนตซิมนะคะเพราะถูกกว่าค่าโรมมิ่ง


9.การเดินทางในเมืองต่างๆ   เดินทางต่างเมืองใช้รถไฟ เดินทางในเมืองบางเมืองใช้รถราง ซึ่งรวมอยู่ใน swiss pass ค่ะ ตารางการเดินรถต่างๆสามารถโหลดได้จาก SBB mobile app ค่ะ หรือจะใช้ google map ก็ได้ค่ะ นี่คือราคานะคะ

https://www.swiss-pass.ch/swiss-pass/

ราคาเด็กของที่นี่คืออายุต่ำกว่า  26 ปีค่ะ


( ของเราซื้อเป็น 8 days pass ค่ะ เนื่องจากคิดเป็นราคาแล้วสองวันที่เหลือถ้าซื้อตั๋วเดี่ยวๆจะแพงกว่า ) 

10.ปลั๊กไฟ ใช้ไฟ 220V แต่ใช้ปลั๊กแบบหัวกลม ดังนั้นก็ต้องหาปลั๊กแปลงมาอยู่ดีค่ะ 555555 

11.อาหารการกิน  ส่วนใหญ่อาหารสไตล์ยุโรปจะเป็นอาหารที่ไม่มีรสชาติ อาจจะออกแนวเลี่ยนๆแต่ก็แล้วแต่คนชอบนะคะอันนี้ ไฮไลท์ของที่นี่ก็จะเป็น 'ฟองดู' แนะนำให้หาลองดูซักร้าน มีทั้งชีสและช้อคโกแล้ต ที่เราไปกินมาคือฟองดูชีสนะคะ ( ฟองดูที่นี่จะผสมไวน์ รสชาติอาจจะขมๆ ) มีมันฝรั่งและเนื้อรมควัน
ส่วนมื้ออื่นๆ เราก็พกมาม่าไทยไปค่ะ ด้วยความที่เคยชินกับอาหารเดิมๆ 5555555 อาหารที่นี่ราคาค่อนข้างสูงและจานใหญ่ จานนึงมีตั้งแต่ 10CHF-70CHF จะเป็นพวกสลัด สเต็ก สปาเกตตี้ พิซซ่า หาได้ตามทุกเมืองเลยค่ะ แต่อาหารของเขาอร่อยมากๆ 



ฟองดูชีสสสสสส


สเต็กหมูราสซอส


ซีซ่าร์สลัด


สลัดปลาแซลม่อน
ของหวานที่ขึ้นชื่อก็หนีไม่พ้น 'ช้อกโกแล้ต' ไม่ว่าจะเป็นช้อโกแล้ตร้อน ที่ไม่หวานมาก ส่วนตัวชอบนะคะ ฟองดูช้อกโกแล้ต แนะนำให้เข้าร้านช้อกโกแล้ตสดดู มีรสชาติแปลกๆเยอะ สามารถซื้อกลับไปฝากที่สนามบินก็ได้ค่ะ แต่บางยี่ห้ออาจจะไม่มี ก็ซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ


ร้านช้อคโกแลตที่เมืองเซอเมท





อันนี้หาซื้อได้ตามร้าน coop



ไอศกรีมช้อคโกแล้ตมีขายตามร้านทั่วไป



ร้านคาเฟ่ใน Ginderwald


12.ของฝาก • ของฝากที่มีชื่อเสียงที่นี่ก็คือ 'มีดพก' ใครมาที่นี่ก็จะเจอแต่ victorinox เต็มบ้านเต็มเมืองเลยค่ะ เป็นยี่ห้อของมีดพก มีสารพัดชนิด ราคาก็ตั้งแต่ 9CHF-100CHF แล้วแต่รุ่นที่เราใช้งาน ราคาจะเท่ากันทุกร้านค่ะ ซื้อร้านไหนก็ได้
( แอบบอกว่าตอนไปเมือง Luzern เจอร้านที่คนไทยเป็นคนขาย ได้ส่วนลดอีก 10% มาด้วย )


• นาฬิกา swatch สวิสได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งนาฬิกา เราก็จะพบร้านขายนาฬิกาหลายๆยี่ห้อจากหลายๆประเทศรวมกันที่นี่ และร้านก็เยอะมากๆ ไม่ต้องกลัวว่าพลาดที่นี่ไปแล้วจะไม่ได้ซื้อ มีเกือบทุกเมืองเลยค่ะ ถ้าเป็นนาฬิกาวัยรุ่นก็คงหนีไม่พ้น swatch ราคาอาจจะไม่ต่างจากบ้านเรามากนัก แต่จะมีแบบให้เลือกหลายหลายมากกว่า บางลายเป็น limited ของประเทศเขา แต่ก็ยังมียี่ห้อดังอื่นๆของสวิสอีกเยอะนะคะ รับรองว่าได้กลับมาคนละเรือนสองเรือนแน่ๆ • ช้อคโกแล้ต ในที่นี่ก็ได้รวบรวมหลายยี่ห้อไว้ หลายรสชาติ รสชาติแปลกๆอย่างช้อคโกแล้ตรสพริก รสผลไม้แปลกๆ รสเหล้าต่างๆ หรือจะเป็นช้อคโกแล้ตสด ( แนะนำให้ซื้อแล้วทานเลยมากกว่า ) 

13.อุณหภูมิ ช่วงที่เดินทาง ( 8-15 มิ.ย.) ประมาณ 15-20 องศา ส่วนช่วงที่ขึ้นไปยอดเขาประมาณ 0 องศา

นี่คือแพลนในแต่ละวันนะคะ จะมาต่อกันในพาร์ท 2

Day 1  Suvarnabhumi airport - London 
               
Day 2  London-Zurich-Interlaken ( west+ost.)

Day 3  Interlaken-Tune-Luzern 


Day 4  Interlaken-Zermett


Day 5  Zermett-Ginderwald-Unterseen ( Interlaken )


Day 6  Interlaken-Bern-Zurich


Day 7  Zurich-London-BKK





...PART 2 COMING SOON...

Comments

Popular posts from this blog

รีวิว series เกาหลี 2014-2015

{ Tips } How to get good score in TOEIC Exam ! + แจกข้อสอบชุดปราบเซียน :)

รีวิวซีรี่ย์เกาหลีปี 2015